top of page
ความหมายและประวัติของเบเกอรี่
11062b_5c63baa86e534665a400a6318b09b08e~mv2.webp

คำว่า”เบเกอรี่” (Bakery) แปลตามรากศัพท์ที่พจนานุกรมส่วนใหญ่แปลไว้คือ โรงทำขนมปัง

  1. สถานที่ผลิตและขายขนมปัง เพสตรี้ และอื่นๆ

  2. ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ หรือผลิตภัณฑ์ขนมอบ เช่น ขนมปัง เพสตรี้

         ดังนั้นตามความเข้าใจของคนทั่วไปแล้วเบเกอรี่หมายถึงผลิตภัณฑ์ขนมอบที่ทำจากแป้ง  สาลีที่มีเทคนิคการทำโดยเฉพาะ และได้มีการพัฒนาเป็นลำดับ

8888.webp
ประวัติความเป็นมาของเบเกอรี่
775757.webp
11062b_61b98f3046f64f84abb0797d7d02f12e~mv2.webp

ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ชนิดแรกซึ่งแพร่หลายและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค คือ ขนมปัง และได้ชื่อว่าเป็นผลิตผลเพื่อยังชีวิต เป็นสัญลักษณ์ของความดีงาม ความอบอุ่น และความปลอดภัยมานานตั้งแต่สมัยคัมภีร์ไบเบิ้ล แต่ยังไม่มีใครกล้ายืนยันว่าผู้ใดทำขนมปังเป็นคนแรกเท่าที่เล่ากันต่อๆ มาว่า ชาวสวิสที่อาศัยอยู่ตามทะเลสาบในยุคหินเป็นผู้ริเริ่มนำเมล็โข้าวสาลีมาบดโดยใช้ครกหยาบๆ ตำแล้วนำไปผสมน้ำ เทส่วนผสมนี้ลงไปบนหินร้อนๆ เพื่อให้สุก ผลที่ได้ก็คือ ขนมปังที่ขึ้นฟูโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งค้นพบมากกว่า 3,000 ปี ก่อนคริสตกาล ประวัติที่ยอมรับสืบเนื่องกันมาอีกเรื่องหนึ่งก็คือพวกทาสในสมัยราชวงศ์อียิปต์ ได้ผสมก้อนแป้งที่ลืมทิ้งไว้ลงไปในแป้งผสมใหม่มๆ ผลก็คือได้ขนมปังที่เบาและเลิศรส

 ความรู้เกี่ยวกับการทำขนมปังได้แพร่หลายจากอียิบต์ไปสู่ภูมิภาคต่างๆ แถบเมดิเตอเรเนียนในกลุ่มเยรูซาเล็มโบราณ รวมทั้งเมืองเล็กเมืองน้อยที่อยู่บนเส้นทางค้าขายของพวกตะวันออกกลางการทำผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งยุคนั้นขนมปังที่ผลิตออกมาจะมีขนาเล็ก ซึ่งละม้ายคล้ายกับขนมปังโรลของเราในปัจจุบัน คนโบราณส่วนมากนิยมใช้ขนมปังแบนๆ ที่ไม่ทิ้งให้ขึ้นฟูในโอกาสพิเศษ เช่น พิธีทางศาสนา และพวกชาวเขาจูดีน ซึ่งมีอาชีพเลี้ยงสัตว์ก็นิยมขนมปังประเภทนี้อยู่ เนื่องจากไม่คุ้นกับอารยธรรมแผนใหม่

พวกกลุ่มพ่อค้าชาวโพนิเซียน เป็นพวกแรกที่เผยแพร่การทำขนมปังในขณะที่พวกเขามุ่งไปค้าขายทางตะวันออก ไปยังเปอร์เชียและไกลกว่านั้น และดูเหมือนว่าพวกยุคกรีกยุคแรก ได้เรียนรู้การทำขนมปัที่ขึ้นฟูมาจากพวกกลุ่มโพนิเชียนในปี 1,000 ก่อนคริสตกาล

ในศตวรรษต่อมา วิวัฒนาการในศิลปะการทำขนมปังก้าวหน้ามาก พวกกลุ่มก้าวหน้ากรีกได้คิดประดิษฐ์หินโม่แป้งจากข้าวสาลี และผลิตภัณฑ์แป้งออกมาถึง 4 ชนิด ซึ่งชนิดหนึ่งนั้นเ็นแป้งขาว (White flour) ได้ดัดแปลงเตาอบแบบอียิปต์โบราณมาเป็นเตาอบแบบใช้อิฐก่อเป็นรูปโดมซึ่งมีปรสิทธิภาพยิ่งขึ้น พวกกรีกนั้นใช่แต่จะเป็นผู้ผลิตขนมปังขาวที่มีคุณภาพดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังได้ผลิตขนมเค้ก และขนมนานาชนิด โดยใช้ส่วนผสมของนม น้ำมัน เหล้า ไวน์ เนยแข็ง และน้ำผึ้งผสมเข้าไปด้วย

         ตลอดกาลสมัยเหล่านี้ จากกรีกไปโรม และเลยไปถึงยุโรปตอนกลาง ศิลปะการทำขนมอบดำเนินไปอย่างเชื่อช้า แต่ได้ผลคงที่ ควาเจริญก้าวหน้าอย่างมหาศาลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ทำให้เกิดวิวัฒนาการอย่างใหญ่หลวงแก่การทำขนมอบในปัจจุบัน พื้นฐานชองวิวัฒนาการนี้ เนื่องมาจากสาเหตุใหญ่ 2 ประการ คือ ในกลางปี 1800 ได้มีการแนะนำเกี่ยวกับโรงโม่แป้งสาลี และได้มีการผลิตแป้งสาลีที่ดีออกสู่ตลาด และในตอนปลายศตวรรษนั้นได้มีการใช้ยีสต์ ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ทำให้ขนมปังขึ้นฟู และมีการใช้อย่างแพร่หลาย

ในปัจจุบันนี้ การทำขนมอบนั้นนับว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องการความชำนาญเป็นอย่างมาก ในกรณีที่ทำเป็นจำนวนมากเพื่อจำหน่าย จะพบอุปสรรคนานัปการทางด้านเครื่องมือ ทุกวันนี้ความเจริญก้าวหน้าของการทำขนมอบน้ันหาได้ขึ้นอยู่กับผู้ทำเพียงอย่างเดียวไม่ โรงโม่แป้งซึ่งสามารถผลิตแป้งที่มีคุณภาพดีและผู้คิดประดิษฐ์เครื่องทุ่นแรงเช่นเตาอบที่ทัสมัยและมีประสิทธิภาพเครื่องผสมและเครื่องปั้นให้เป็นรูปแบบ และสุดท้ายก็คือนักประดิษฐ์และ่างเทคนิคที่ได้ทุ่มเทเวลาในการค้นกว้าในเรื่องคุณสมบัติของก้อนแป้งก็มีส่วนที่ช่วยให้อุตสาหกรรมด้านนี้เจริญก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้งอีกด้วย

"เบเกอรี่" 
แผนกขนมปัง.webp

ความหมายของ เบเกอรี่คือ ขนมหรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากแป้ง แล้วนำไปอบให้สุกนั่นเอง ถ้ากล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ “เบเกอรี่” ก็คือ ขนมหวานของทางตะวันตกที่จะต้องผ่านกระบวนการอบนั่นเอง โดยขนมหรือผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่เรามักรู้จักหรือได้รับความนิยม ก็มีมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ขนมปัง เค้ก พาย ครัวซองต์ เป็นต้น ถือว่าเป็นขนมที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้

bottom of page